เที่ยวญี่ปุ่น-จองโรงแรมอย่างไรให้ได้ราคาถูก

ญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของคนไทยและเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับชาวไทยเสมอ ทว่าหนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวก็คือการหาแหล่งตลอดจนจองที่พักในญี่ปุ่น

หลายคนมักคิดว่าที่พักในญี่ปุ่นนั้นมีราคาแพงไปเสียหมดทว่าอันที่จริงแล้วเราสามารถเลือกวางแผนตลอดจนเลือกที่พักได้หลากหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับงบประมาณของเราได้เช่นกัน วันนี้เราเลยอยากแนะนำการวางแผนเลือกที่พักตลอดจนเทคนิคและวิธีการจองที่พักให้ได้ราคาประหยัดคุ้มค่ากัน เพื่อให้คุณได้เที่ยวอย่างสนุกมากขึ้นในงบที่ควบคุมได้ ลองไปดูกันเลย

เลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม

การจองโรงแรมในญี่ปุ่นให้ได้เรตราคาถูกนั้นต้องวางแผนเรื่องช่วงเวลาในการท่องเที่ยวให้ดี ซึ่งข้อกำหนดในเรื่องเวลาที่ควรคำนึงนั้นแบ่งได้ดังนี้

• เลือกวันธรรมดาถูกกว่าวันหยุด: เรทราคาที่พักของโรงแรมส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะแบ่งเป็นเรทวันธรรมดากับเรทวันหยุดสุดสัปดาห์ (ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์) เลือกจองที่พักในวันธรรมดาจะได้ราคาถูกกว่าช่วงวันหยุด โดยเฉพาะที่พักย่านแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตราคาในวันหยุดอาจถีบตัวพุ่งสูงเป็นพิเศษ แต่ที่พักราคาประหยัดอย่างสไตล์ Hostel, Guesthouse หรือ Capsule Hotel อาจเป็นเรตมาตรฐานราคาเดียว (Flat Rate) ทุกวัน ทั้งนี้ต้องลองเช็ครายละเอียดในแต่ละที่พักอีกครั้งเช่นกัน
• หลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลและวันหยุดยาวของญี่ปุ่น: ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวชาวญี่ปุ่นก็ออกเที่ยวพักผ่อนเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยวญี่ปุ่น ในช่วงเทศกาลดังยอดฮิตเหล่านี้มักเป็นไฮด์ซีซันของญี่ปุ่นซึ่งค่าที่พักก็จะถีบตัวขึ้นสูงเป็นพิเศษ (โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต) เทศกาลหลักๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงก็ได้แก่
  • เทศกาลซากุระบาน: ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิต ราวปลายเดือน มี.ค.-ปลายเดือน เม.ย. ของทุกปี
  • Golden Week: ช่วงวันหยุดยาวประจำปีของญี่ปุ่น ซึ่งช่วงนี้จะมีวันหยุดแห่งชาติต่อเนื่องกันหลายวันในสัปดาห์เดียวกัน โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่ 29 เม.ย.-5 พ.ค. ของทุกปี
  • ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี: ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ราวเดือน ก.ย.-พ.ย. ของทุกปี

เลือกทำเลให้ย่อมเยา

แน่นอนว่าที่พักในย่านการค้ายอดฮิต ย่านท่องเที่ยวชื่อดัง หรือย่านใจกลางเมืองเดินทางสะดวกสบายนั้นย่อมมีราคาแพง หากหลีกเลี่ยงย่านหลักเหล่านี้ได้ก็ราคาที่พักก็อาจถูกลงมาได้

• เปลี่ยนจากย่านหลักเป็นย่านรอง: นอกจากย่านหลักแล้วในญี่ปุ่นแทบทุกเมืองก็มักจะมีย่านรองที่อาจไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตหรือแหล่งธุรกิจสำคัญของเมืองทว่าอาจเป็นย่านโดยรอบหรือย่านที่ไกลออกไปหน่อยแต่ก็เดินทางสะดวก ก็จะทำให้ได้ที่พักในราคาที่ถูกลงได้
• เปลี่ยนจากใจกลางเมืองเป็นชานเมือง: หากใครที่เริ่มคุ้นเคยกับการเดินทางในญี่ปุ่นแล้วอาจลองเปลี่ยนจากพักใจกลางเมืองมาเป็นพักแถบชานเมืองดูก็ได้ อาจเลือกที่ใกล้กับสถานีรถไฟเพื่อการเดินทางเข้าใจกลางเมืองสะดวกสบาย ที่พักระดับเดียวกันในแถบชานเมืองก็จะราคาถูกกว่าใจกลางเมือง

จองล่วงหน้า

ควรวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้านานสักนิด และควรจองที่พักล่วงหน้านานหน่อยก็จะทำให้ได้ราคาถูก ระยะเวลาที่เหมาะสมอยู่ที่จองล่วงหน้าราว 3-6 เดือน ก็จะได้ราคาดี แต่หากกลัวการเปลี่ยนแปลงกระทันหันอาจจองกับแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีบริการ “ยกเลิกการจอง” ไว้ก็ได้ ซึ่งราคาก็อาจสูงขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังได้เรทราคาที่ดีอยู่

เลือกประเภทของที่พักให้เหมาะสม

ที่พักในญี่ปุ่นมีหลายระดับ หากโรงแรมมาตรฐานราคาสูงเกินไปอาจเลือกประเภทที่พักที่ราคาประหยัดลงได้ แต่ก็อาจต้องแลกกับความสะดวกสบายที่หายไปบ้าง ประเภทที่พักที่แนะนำมีดังนี้

• Business Hotel: ที่พักสไตล์นี้มาตรฐานอาจเทียบได้กับโรงแรมมาตรฐานทั่วไป ทว่าโรงแรมจะไม่มีพื้นที่นัก ห้องพักมีขนาดเล็ก เตียงนอนมีขนาดเล็ก สิ่งอำนวยความสะดวกลดลง (อาทิ ไม่มีบริการอาหารเช้า) เหมาะสำหรับผู้ที่ออกเที่ยวตั้งแต่เช้าจรดค่ำแล้วกลับมานอนพักในช่วงกลางคืนเท่านั้น
• Hostel / Guesthouse: ที่พักราคาประหยัด (มาก) แต่ส่วนใหญ่มักเป็นห้องนอนรวม ห้องน้ำรวม และใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ทว่าที่พักลักษณะนี้บางแห่งก็มีบริการห้องเดี่ยวเช่นกันแต่บางครั้งก็ต้องใช้ห้องน้ำรวม และความสะดวกสบายอาจไม่เท่าโรงแรมหรือ Business Hotel แต่ก็จะได้ราคาประหยัดพอสมควร เหมาะกับคนที่ชอบฟิลแบ็คแพ็คและไม่ซีเรียสกับความเป็นส่วนตัว
• Capsule Hotel: ที่พักราคาประหยัดที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นอนแบบห้องรวมแต่ก็แบ่งแยกเป็นล็อกนอนชัดเจน ห้องน้ำรวม มักมีออนเซนให้แช่ เหมาะสำหรับคนชอบฟิลแบ็คแพ็คเกอร์หรือเที่ยวคนเดียวแบบมาไวไปไว แต่บางครั้งเรทของ Capsule Hotel ก็อาจแพงกว่า Hostel เสียด้วยซ้ำ หรือปัจจุบันก็มี Capsule Hotel ที่ใส่ใจด้านดีไซน์ทำให้ที่พักดูมีระดับขึ้นมาอีกขั้นและราคาสูงกว่าเรททั่วไป ต้องรายละเอียดให้ดีอีกครั้ง
• Airbnb: เป็นที่พักสไตล์เจ้าของบ้านเปิดให้เช่าซึ่งกำลังเป็นเทรนด์นิยมไปทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ญี่ปุ่น หากไปเที่ยวกันหลายคนที่พักลักษณะนี้จะเหมาะมาก รวมถึงการพักระยะยาวก็จะทำให้ได้ราคาถูก (ราคาต่อหัวถูกลง) เช่นกัน ที่พักดีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน แต่ก็จะไม่มีพนักงานบริการต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด
• Internet Café: อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่เปิด 24 ชั่วโมงนั้นจะมีเบาะสามารถเอนนอนได้และมีคอกกั้นเป็นส่วนตัว แต่เหมาะเป็นที่พักชั่วคราวเสียมากกว่า หากไปเที่ยวก็จะไม่สะดวกนั้น แต่ถ้าใครเดินทางแบบสบายตัว (กระเป๋าเป้ใบเดียว) แล้วอยากประหยัด (มาก) หรือลองเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ก็สามารถลองพักรูปแบบนี้ได้เช่นกัน

ใช้แพลตฟอร์มและแอปอย่างชาญฉลาด

ยุคนี้คนส่วนใหญ่นิยมจองที่พักผ่านแพลตฟอร์มและแอปเจ้าดังมากมาย ทว่าการใช้เทคโนโยลีอย่างชาญฉลาดนั้นก็อาจทำให้เราค้นหาที่พักราคาถูกได้ง่ายขึ้น ได้ที่พักราคาประหยัดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยุคนี้ Ai พัฒนาก้าวกระโดดมากทำให้เราสามารถค้นหาหรือเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ผู้บริโภคคุ้มค่ามากที่สุดได้ด้วย แต่เราก็ต้องฉลาดใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุดเช่นกัน เรามีเทคนิคมาแนะนำในการใช้แพลตฟอร์มตลอดจนแอปในการจองดังนี้

• เข้าแพลตฟอร์มที่มีการเปรียบเทียบราคาและนำเสนอข้อเสนอที่ถูกที่สุด: ลองหาที่พักผ่อนแพลตฟอร์มดังอย่างเช่น Kayak, Skyscanner, หรือ Trivago เพื่อทำการเปรียบเทียบราคาและแหล่งการจองที่เราถูกใจที่สุด
• เสิร์ชที่พักผ่าน google: ว่ากันว่าเทคนิคที่จะทำให้ได้โรงแรมราคาถูกคือให้เลี่ยงการเข้าตามแพลตฟอร์มจองโรงแรมต่างๆ โดยตรงแต่ให้เสิร์ชหาผ่านgoogle แทน เพราะ google จะทำการเปรียบเทียบราคาแต่ละแพลตฟอร์มให้เราเสร็จสรรพหลังจากที่ได้ได้ราคาโดนใจก็คลิกเข้าแพลตฟอร์มนั้นๆ ผ่านทาง google อีกครั้งได้เลย ข้อดีของ google อีกอย่างคือเราสามารถเห็นราคาและที่ตั้งของโรงแรมผ่าน google map ได้เลย สามารถเปรียบเทียบทำเลพร้อมราคาไปพร้อมกันเพื่อเลือกที่พักที่ดีที่สุดและราคาที่เหมาะสมที่สุดได้ดีกว่า
• เปลี่ยนค่าเงินจากสกุลเงินบาท (฿) เป็นสกุลเงินเยน (¥): เคล็ดลับที่หลายคนมักไม่รู้เวลาจองผ่านแพลตฟอร์มดังต่างๆ คือให้เปลี่ยนค่าเงินจากสกุลเงินบาทเป็นเงินเย็นแล้วเปรียบเทียบราคาดู ซึ่งบางครั้งราคาห้องพักสกุลเงินเยนนั้นถูกกว่าเงินบาท เสร็จแล้วให้เลือกจ่ายเป็นเงินเยนผ่านบัตร Travel Money ต่างๆ ก็จะไม่เสียค่าบริการอะไรเพิ่มและได้เรตคุ้มค่า แถมบางครั้งแต่ละบัตรอาจมีโปรโมชั่นพิเศษด้วย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลานั้นๆ ของแต่ละบัตรด้วย) อาจได้ราคาคุ้มค่าขึ้นไปอีก
• ตั้งการค้นหาเรียงลำดับจากราคาถูกที่สุดก่อน: เรื่องง่ายๆ นี้หลายคนอาจไม่รู้หรือมองข้ามไป ให้ลองตั้งค่าการค้นหาราคาเรียงลำดับจากถูกที่สุดไปแพงที่สุด เท่านี้ก็จะได้ข้อมูลที่ทำให้เราเลือกจากราคาประหยัดได้ง่ายขึ้น และได้ข้อเสนอที่ดีกว่าด้วย

เลือกใช้แพลตฟอร์มและแอปสัญชาติญี่ปุ่นในการจอง

แน่นอนว่าแพลตฟอร์มและแอปสัญชาติญี่ปุ่นที่มักทำขึ้นเพื่อบริการคนญี่ปุ่นเป็นหลักมักจะมีข้อเสนอส่วนลดรวมถึงโปรโมชั่นในการจองที่พักมากมาย หากเรารู้ภาษาญี่ปุ่นก็จะทำให้สามารถจองที่พักได้ในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น ทว่าด้วยความที่ช่วงนี้ญี่ปุ่นบูมเรื่องท่องเที่ยวยอย่างมากปัจจุบันก็มีหลายแพลตฟอร์มของญี่ปุ่นเริ่มให้บริการภาษาอังกฤษรวมถึงภาษาอื่นๆ และภาษาไทยด้วยแล้ว ก็จะทำให้การจองง่ายขึ้นหน่อยทว่าก็อาจได้ข้อเสนอไม่ดีเท่ากับเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นที่บริการสำหรับคนญี่ปุ่น แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการจองโรงแรมที่ได้ราคาคุ้มค่า แหล่งจองชื่อดังราคาดีเหล่านี้ก็เช่น Rakuten (Travel) และ Jalan.net ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมี japanican.com หรือแม้แต่ travel.yahoo.co.jp ของ Yahoo! Japan ก็ยอดนิยมไม่แพ้กัน

ตะลุยหาส่วนลด

การหาส่วนลดก่อนการจองโรงแรมนั้นทำให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ดีอีกวิธีหนึ่ง หรือบางครั้งอาจกลายเป็นทิศทางให้เราจองที่พักสำหรับทริปนั้นเลยก็ได้ (อย่างเช่น เครือโรงแรมนี้มีส่วนลดให้ เราอาจเลือกจองเฉพาะเครือโรงแรมนี้ในแต่ละที่ เป็นต้น) วิธีการนี้อาจเหมาะกับผู้ที่ชอบเสาะแสวงหาส่วนลดตามที่ต่างๆ ซึ่งแหล่งส่วนลดนั้นมีมากมาย อาทิ

• บัตรธนาคาร: บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือแม้แต่ Travel Card มักจะมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดมอบให้เสมอ ลองติดตามตามบัตรที่เรามีก็อาจได้ส่วนลดที่พักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ หรือไม่ก็อาจลองดูข้อเสนออื่นๆ อย่างเช่นเปิดบัตรใหม่แล้วได้ส่วนลด ก็อาจเป็นอีกวิธีในการช่วยให้ได้ที่พักราคาถูกลงได้ นอกจากนี้อาจดูว่ามีการผูกบัตรกับแพลตฟอร์มหรือเครือโรงแรมต่างๆ หรือไม่ เช่นถ้าจ่ายบัตรนี้จะได้รับส่วนลดอัตโนมัติทันทีสำหรับเครือโรงแรมนี้ เป็นต้น
• ตั๋วเครื่องบินหรือบัตร Pass ต่างๆ: หลายคนอาจไม่สนใจหาข้อมูลหรือละเลยสิ่งนี้ บางครั้งการจองตั๋วเครื่องบินหรือซื้อบัตร Pass ต่างๆ อาจมีส่วนลดในการจองโรงแรมมอบให้ด้วย ทั้งนี้มักอยู่ในเอกสารเพิ่มเติม หรือรายละเอียดย่อยต่างๆ ตรงนี้เราอาจหาข้อมูลเพิ่มหรือดูรายละเอียดให้ครบ อาจทำให้เราได้ส่วนลดที่พักด้วย
• อีเวนท์เทศกาลท่องเที่ยว: เมืองไทยมีการจัดอีเวนท์การท่องเที่ยวต่างประเทศเสมอๆ หากมีเวลาลองแวะไปตามเทศกาลท่องเที่ยวดูอาจได้ข้อเสนอส่วนลดต่างๆ รวมถึงบางครั้งก็อาจได้ส่วนลดจากโรงแรมที่ไปออกบูท สามารถจองที่พักราคาประหยัดได้โดยตรงเลย
• สมัครสมาชิกแพลตฟอร์มต่างๆ: หากเป็นสมาชิกในแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวหรือจองที่พักต่างๆ เราก็จะได้ข้อเสนอส่วนลดเพิ่มเติม หรือหากจองที่พักผ่านแพลตฟอร์มนั้นๆ บ่อยก็อาจได้เปอร์เซ็นต์ส่วนลดเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้เราจองที่พักราคาถูกหรือได้ข้อเสนอในราคาสมาชิกที่จะช่วยให้เราประหยัดได้เช่นกัน

จองที่พักกับโรงแรมโดยตรง

วิธีพื้นฐานแบบดั้งเดิมอย่างการจองที่พักโดยตรงนั้นอาจทำให้เราได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดก็เป็นได้ เพราะตามหลักธุรกิจแล้วหากเราจองที่พักผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปอื่นๆ โรงแรมก็มักจะต้องถูกหักค่าธรรมเนียม (ค่าบริการ) จากบริษัทเหล่านั้น วิธีนี้หากเราสนใจโรงแรมหรือที่พักไหนอาจลองเสิร์ชหา Official Website ของที่พักเหล่านั้นแล้วลองเข้าไปเสิร์ชหาข้อมูลหรือจองโดยตรงดู อาจได้เรทราคามาตรฐานที่ถูกกว่าจองผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปด้วยซ้ำ หรือไม่ก็อาจได้ข้อเสนออื่นทดแทนเพิ่มเติม เช่น ฟรีอาหารเช้า เลือกทำเลห้องวิวดีได้ ฟรีรถรับส่ง เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์ทางการของโรงแรมต่างๆ มักเป็นภาษาญี่ปุ่น ทั้งนี้หารู้ภาษาญี่ปุ่นก็จะได้เปรียบมากทีเดียว