ชุดจินเบ (甚平) เป็นเครื่องแต่งกายที่ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความเรียบง่ายและสบายตัวที่สวมใส่กันอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ลักษณะของชุดจินเบนั้นเป็นชุดสองชิ้น ประกอบไปด้วยเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้น ซึ่งมักจะทำจากผ้าที่มีความสามารถในการระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกเย็นสบายเมื่อเผชิญกับสภาพอากาศร้อนชื้น
ชุดจินเบเป็นที่รู้จักกันในด้านความเรียบง่ายและความสะดวกสบาย ผู้คนมักสวมใส่ชุดนี้เพื่อการพักผ่อนในบ้านหรือการเข้าร่วมงานเทศกาลในฤดูร้อน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย จินเบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสบายใจและการใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ
ชุดนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายและเด็ก ๆ ที่มักจะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงวันหยุดเท่านั้น แต่ปัจจุบันจินเบได้รับความนิยมจากผู้หญิงและคนทุกเพศวัย ไม่ว่าใครก็สามารถสวมใส่ชุดจินเบได้
วันนี้เราก็เลยอยากแนะนำชุดจินเบให้ทุกคนได้รู้จัก เพื่อใครที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนและไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี การใส่ชุดจินเบเดินเล่นในเมืองหรือร่วมงานเทศกาลก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเที่ยวญี่ปุ่น แถมได้รูปกลับไปอีกเพียบ
ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชุดจินเบ
หากพูดถึงประวัติศาสตร์ของชุดจินเบ จะพบว่ามีทฤษฎีและความเชื่อมากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของชุดนี้ หนึ่งในทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับคือชุดจินเบมีต้นกำเนิดจากชุดที่ใช้โดยซามูไรระดับล่างในยุคโบราณ ชุดนี้ถูกเรียกว่า “จินเบฮาโอริ” ก่อนที่ต่อมาจะถูกย่อเหลือเพียงคำว่า “จินเบ” ที่เราใช้ในปัจจุบัน อีกทฤษฎีหนึ่งก็คือคำว่า “จินเบ” อาจมาจากชื่อของบุคคลที่สวมใส่ชุดนี้เป็นคนแรก ๆ
ในสมัยไทโช (1912-1926) ชุดจินเบได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้มีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น จนกลายเป็นเสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสังคม ลักษณะของเสื้อจินเบในยุคนี้มีการพัฒนาจากการใช้ผ้าหนาและแขนเสื้อกว้าง มาเป็นแบบแขนเสื้อทรงกระบอกที่มีความยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ดีขึ้น จนกระทั่งช่วงปี 1965 หรือยุคโชวะ ชุดจินเบที่ประกอบด้วยเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นก็กลายเป็นรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
จุดเด่นของชุดจินเบ
สิ่งที่ทำให้ชุดจินเบมีความโดดเด่นและแตกต่างจากเสื้อผ้าลำลองทั่วไปคือการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ ตรงรอยต่อของไหล่เสื้อและแขนเสื้อจะใช้ไหมแบบพิเศษเพื่อเชื่อมต่อตัวเสื้อและแขนเสื้อเข้าด้วยกัน โดยเส้นไหมเหล่านี้จะถูกถักทออย่างประณีต ทำให้เกิดลวดลายที่คล้ายกับไหมถัก ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเสื้อแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการระบายอากาศ ช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายแม้ในวันที่อากาศร้อน นอกจากนี้การออกแบบของชุดจินเบยังมีความยืดหยุ่นและไม่ซับซ้อน ทำให้สวมใส่ง่ายและเหมาะสำหรับการพักผ่อน
การเลือกและลองสวมใส่ชุดจินเบ
ถ้าอยากใส่ชุดจินเบต้องเริ่มจากตรงไหน สิ่งแรกเลยคือวัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บ จินเบส่วนใหญ่มักทำจากผ้าสองประเภทหลัก ๆ ประเภทแรกคือผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย และไม่ระคายเคืองผิว ผ้าฝ้ายเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบสัมผัสนุ่มสบายและต้องการชุดที่เหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนประเภทที่สองคือผ้าลินิน ซึ่งแม้ว่าอาจทำให้รู้สึกระคายผิวเล็กน้อยสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แต่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเหงื่อออกเยอะ เนื่องจากผ้าลินินสามารถระบายอากาศได้ดีกว่าและช่วยให้เหงื่อแห้งได้เร็วกว่า
ในด้านการเลือกไซส์ ชุดจินเบจะดูดีที่สุดเมื่อใส่ไซส์ที่พอดีตัว ไม่แน่นเกินไปและไม่หลวมจนเกินไป การผูกสายด้านในให้พอดีตัวเพื่อให้คอเสื้อด้านหลังตั้งสวยกำลังดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสดใสและมีความกระฉับกระเฉง จินเบไม่นิยมใส่แบบโอเวอร์ไซส์ เนื่องจากจะทำให้ผู้สวมใส่ดูเหนื่อยล้าและขาดความสดใส
ก่อนใส่ชุดจินเบ จะเลือกใส่เสื้อยืดชั้นในหรือไม่ใส่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายของตัวเรา หากไม่ใส่เสื้อยืดชั้นในก็จะรู้สึกเย็นสบายกว่า แต่ถ้าเลือกใส่เสื้อยืดชั้นในก็จะช่วยป้องกันคราบเหงื่อที่อาจติดอยู่บนตัวชุด และยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการเหงื่อออกได้อีกด้วย สำหรับเสื้อยืดชั้นในเราแนะนำให้เลือกเสื้อคอวีลึกหรือเสื้อกล้าม เนื่องจากเสื้อจินเบเป็นคอวีที่ค่อนข้างลึก หากใส่เสื้อยืดคอกลมจะทำให้เห็นคอเสื้อยืดโผล่ออกมา ซึ่งอาจทำให้ดูไม่เรียบร้อย
หาซื้อชุดจินเบได้ที่ไหน และใส่ไปไหนดี
ในอดีต ชุดจินเบถูกสวมใส่โดยผู้ชายและเด็กเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันชุดนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่งอีกต่อไป ผู้หญิงก็สามารถสวมใส่ชุดจินเบได้ และยังสามารถแมทช์กับเครื่องประดับหรือรองเท้าในสไตล์ของตัวเองเพื่อสร้างลุคใหม่ ๆ ที่ดูทันสมัยและมีเอกลักษณ์ได้อีกด้วย ชุดจินเบมีหลากหลายสีสันและลวดลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นลวดลายแบบดั้งเดิมหรือแบบทันสมัยที่เหมาะกับทุกวัย
จินเบนิยมใส่กันในหน้าร้อนและเทศกาล เพราะฉะนั้นถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อนและอยากลองใส่ดูก็สามารถหาซื้อแล้วใส่เดินเล่นในงานเทศกาลได้ นอกจากจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายแล้ว ยังทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอีกด้วย จะใส่กับเกี๊ยะไม้แบบดั้งเดิม หรือจับคู่กับรองเท้าแตะสไตล์เอาท์ดอร์หรือสไตล์สปอร์ตก็ได้เป็นลุคร่วมสมัยมากขึ้น บางคนก็ใส่กับหมวกฟางเพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเป็นฤดูร้อนได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าจะหาซื้อชุดจินเบได้ที่ไหน ช่วงหน้าร้อนเป็นเวลาที่ร้านค้าหลายแห่งในญี่ปุ่นจะนำชุดจินเบออกมาวางจำหน่าย สะดวกที่สุดน่าจะเป็นแบรนด์ดังที่เรารู้จักกันดีอย่าง MUJI เพราะดีไซน์เรียบง่าย ราคาจับต้องได้ และหาซื้อง่ายเพราะมีร้าน MUJI แทบทุกย่านท่องเที่ยว หรือจะเป็นแบรนด์แฟชั่นอย่าง UNITED ARROWS ก็มีชุดจินเบที่มีลวดลายกราฟิกทันสมัยที่น่าสนใจและเหมาะกับผู้ที่ต้องการสไตล์ที่โดดเด่น หรือถ้าอยากสัมผัสความเป็นโลคอลอีกหน่อย จะเลือกเป็นร้านเสื้อผ้าในย่านการค้าก็ได้เช่นกัน
สำหรับบ้านไหนที่มีเด็ก ๆ ชุดจินเบสำหรับเด็กเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากให้เพิ่มลงในลิสต์ช็อปปิง เพราะชุดจินเบสำหรับเด็กนั้นมีสีสันสดใสและลวดลายที่สมวัย จะซื้อใส่เองหรือเป็นของฝากให้กับครอบครัวที่มีเด็กก็ดีเหมือนกัน
