ถ้าพูดถึงตลก ทุกคนน่าจะนึกถึงคณะตลกแบบบ้านเราหรือสแตนด์อัพคอมเมดี้ รู้หรือไม่ว่าญี่ปุ่นมีการแสดงตลกที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ‘ราคุโกะ’ (落語) และ ‘มันไซ’ (漫才) การแสดงตลกแบบญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็เข้าใจได้ง่าย
ราคุโกะ เมื่อนักแสดงคนเดียวรับได้ทุกบทบาท
ราคุโกะเป็นศิลปะการเล่าเรื่องตลกและเรื่องหักมุมประกอบการใช้เสียงและท่าทาง เรื่องราวที่เล่านั้นมีตั้งแต่เรื่องในชีวิตประจำวัน มีทั้งตลก เศร้า ไปจนถึงเรื่องผีและตลกร้ายที่ทำให้ผู้ชมประหลาดใจ โดยนักแสดงราคุโกะจะแสดงคนเดียว แต่รับบทเป็นหลายตัวละครโดยใช้การเปลี่ยนเสียง สีหน้า ท่าทาง เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจว่าตอนนี้กำลังรับบทเป็นใครอยู่
นักแสดงราคุโกะเพียงคนเดียวสามารถรับบทได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก วัยรุ่น คนแก่ หรือแม้กระทั่งผี นี่แหละที่เป็นจุดเด่นของราคุโกะ ไม่จำเป็นต้องใช้ฉากใหญ่โตหรือเสื้อผ้าอลังการ เพียงแค่คนคนเดียวที่นั่งอยู่บนเบาะ ถือพัดกระดาษและผ้าเช็ดมือผืนเล็กเพื่อช่วยในการแสดงท่าทางและเสริมสร้างอรรถรสในการเล่าเรื่อง พัดสามารถแปลงเป็นวัตถุได้หลากหลาย เช่น เป็นดาบ ปากกา หรือแม้กระทั่งเป็นตะเกียบ นอกจากนี้ นักแสดงยังสามารถใช้ผ้าเช็ดมือเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งของอื่น ๆ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หรือหมวก
โครงสร้างของราคุโกะมักจะใช้ คิโชเทนเคทสึ (起承転結) ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวที่มีรูปแบบเป็นระบบ สามารถแบ่งเรื่องราวออกเป็น 4 ส่วนหลักด้วยกันคือ
- คิ (起) การเปิดเรื่อง: ในส่วนนี้ นักแสดงตลกจะทำการแนะนำสถานการณ์ แนะนำตัวละคร และบอกผู้ชมถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนนี้เป็นการปูพื้นฐานให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องราวและตัวละคร
- โช (承) การขยายเรื่อง: ในช่วงนี้ เรื่องราวจะเริ่มพัฒนาขึ้น โดยมีการสร้างความคาดหวังและเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์หรือความสัมพันธ์ของตัวละคร
- เทน (転) การพลิกผัน: หัวใจสำคัญของราคุโกะอยู่ตรงจุดนี้ ซึ่งเรื่องราวจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด อาจเป็นการหักมุม หรือการคลี่คลายสถานการณ์ในทางที่ทำให้ผู้ชมประหลาดใจ
- เคทสึ (結) การปิดเรื่อง: เป็นการปิดฉากของเรื่องราวที่เรียบง่าย แต่ก็มักจะเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมได้คิดต่อไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เรียกได้ว่าการชมการแสดงราคุโกะนั้นไม่ได้แค่ความตลกอย่างเดียว แต่ผู้ชมสามารถจินตนาการไปพร้อม ๆ กับนักแสดง และสามารถนำตอนจบไปคิดต่อได้ว่าสามารถจบในรูปแบบไหนได้อีก ทำให้เกิดเป็นบทสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ชมได้
มันไซ คู่หูตลกรับส่งมุก
มารู้จักกับคู่ตลกที่เรียกว่า มันไซ กันบ้าง คราวนี้ไม่ได้ตลกแค่คนเดียว แต่มากันเป็นคู่แบบมีการรับส่งตบมุกอย่างลื่นไหล โดยจะแบ่งหน้าที่กันเป็น ‘โบเคะ’ และ ‘ทสึโคมิ’ หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือคนส่งและคนรับมุก โดยส่วนใหญ่ ‘โบเคะ’ จะเป็นคนที่แสดงในบทที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นที่มาของความตลก ส่วนทสึโคมิจะเป็นฝ่ายที่คอยแก้และตบบทให้ ก็จะทำให้บทที่ตลกอยู่แล้วกลายเป็นตลกขึ้นกว่าเดิม
มันไซมักจะมีการพูดคุยอย่างรวดเร็วในรูปแบบที่เหมือนการสนทนาปกติ แต่สิ่งที่ทำให้มันไซต่างจากการสนทนาธรรมดาคือการใส่คำพูดหรือการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลหรือเกินจริง เพื่อให้เกิดความตลก หัวข้อของบทสนทนานั้นจะหยิบมาจากเรื่องรอบตัวที่ผู้ชมสามารถรู้สึกเชื่อมโยงกับหัวข้อนั้นได้ เช่นเรื่องราวที่มักเกิดขึ้นกับทุกคนในวัยเรียน เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน หรือผลการแข่งขันกีฬาที่เพิ่งจบลงไปไม่นานมานี้
ในคู่ของมันไซ โบเคะจะเป็นตัวละครที่มีบทบาทตลก ซึ่งมักจะเล่นบทที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล บางครั้งอาจจะทำตัวซุ่มซ่ามหรือทำอะไรที่ผิดแปลกไปจากสิ่งที่คนปกติเขาทำกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความตลกในมันไซ ในทางกลับกัน ทสึโคมิจะเป็นตัวละครที่คอยแก้หรือตบมุกของโบเคะ ทสึโคมิมักจะใช้การพูดจาที่ตรงไปตรงมาเพื่อเสริมให้ตลกยิ่งขึ้น
สิ่งสำคัญในการแสดงมันไซก็คือการที่โบเคะและทสึโคมิต้องมีการประสานงานกันเป็นอย่างดี การรับส่งบทและจังหวะในการพูดจาต้องแม่นยำเพื่อให้มุกที่เตรียมไว้สามารถสร้างเสียงหัวเราะได้
มันไซได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมบันเทิงของญี่ปุ่นซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ในรายการทีวีและการแสดงสด บางครั้งการแสดงมันไซอาจจะถูกปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อดึงความสนใจของคนรุ่นใหม่ มันไซไม่เพียงแต่จะเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีการแสดงในต่างประเทศด้วย บางครั้งมันไซก็ถูกนำไปผสมผสานกับศิลปะตลกแบบตะวันตกอย่างสแตนด์อัพคอมเมดี้ เพื่อสร้างการแสดงที่แปลกใหม่และสนุกสนาน
ถ้าอยากดูตลกญี่ปุ่น ไปดูที่ไหนดี?
ตลกแบบญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ให้ความสนุกเพลิดเพลินอย่างเดียว แต่ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรม แนวคิดของคนญี่ปุ่นผ่านยุคสมัยต่าง ๆ ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ สถานการณ์สังคม หรือแม้แต่การแสดงออกทางอารมณ์และการสื่อสารที่แตกต่างจากตะวันตก
หากสนใจตลกญี่ปุ่น เราสามารถเริ่มต้นจากการดูรายการโทรทัศน์ที่มีการแสดงมันไซหรือราคุโกะได้ รายการเหล่านี้มีอยู่มากมายในญี่ปุ่น โดยเฉพาะในสถานีโทรทัศน์ในภูมิภาคคันไซ เช่น โยชิโมโตะทีวี ที่มีการฉายการแสดงตลกของศิลปินหลากหลายคน และยังสามารถรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ในปัจจุบัน
แล้วถ้าสนใจอยากสัมผัสประสบการณ์ดูตลกในสถานที่จริงก็สามารถมาดูที่โอซาก้า จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความตลกไม่ว่าจะทั้งศิลปินราคุโกะ คู่หูมันไซ หรือแม้แต่ชาวเมืองเองก็มีอารมณ์ขันไม่แพ้มืออาชีพ
สถานที่ที่แนะนำในการรับชมราคุโกะและมันไซคือนัมบะ แกรนด์ คาเก็ทสึ (Namba Grand Kagetsu) โรงละครราคุโกะในการดูแลของเครือโยชิโมโตะที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1987 และเป็นโรงละครราคุโกะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยขนาด 858 ที่นั่ง และยังมีโชว์ให้ชมทุกวันอีกด้วย ผู้ชมสามารถสัมผัสกับการแสดงราคุโกะและมันไซจากนักแสดงรุ่นใหญ่ในค่ายโยชิโมโตะได้ที่นี่ นัมบะ แกรนด์ คาเก็ทสึจึงเป็นจุดรวมตัวของแฟนตลกแบบญี่ปุ่นทั่วประเทศ
ฮันโจเท (Hanjotei) โรงละครราคุโกะที่ตั้งอยู่ในย่านเทมมะ ต่างจากนัมบะ แกรนด์ คาเก็ทสึตรงที่ที่นี่จะมีทั้งนักแสดงราคุโกะทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ที่จะมาแสดงให้เราดูด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ซึ่งแต่ละวันจะมีนักแสดงราคุโกะที่แตกต่างกันไปทำให้เข้ามาชมได้บ่อย ๆ ไม่มีเบื่อ
สำหรับใครที่กังวลเรื่องภาษา ถ้ายังไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นจะสนุกกับราคุโกะและมันไซได้ไหม บอกเลยว่าได้ เพราะการแสดงตลกนั้นมีการใช้สีหน้า ท่าทาง โทนเสียงที่ชัดเจน ต่อให้ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็สามารถสนุกไปกับราคุโกะและมันไซได้อย่างแน่นอน
อ้างอิง
http://www.geikyo.com/lite/beginner/what_style.html