แคมป์ปิ้งโมแร็ปที่ฮอกไกโด! แคมป์ปิ้งสำหรับสายรักธรรมชาติ ป่าเขาและทะเลสาบ 

แคมป์ปิ้งโมแร็ปเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของฮอกไกโด เหมาะสำหรับแคมป์เปอร์สายธรรมชาติ ที่นี่ยังถือเป็นแคมป์ปิ้งที่ดีที่สุดสำหรับชมพระอาทิตย์ตกดิน และได้เห็นวิวสะท้อนจากกทะเลสาบอันสวยงามอีกด้วย หากสนใจมาแคมป์ปิ้งในช่วงหน้าร้อนที่โมแร็ปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศร้อน เพราะอากาศที่ฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนนั้นยังคงเย็นสบายซึ่งแตกต่างจากแคมป์ปิ้งที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมาะสำหรับผู้ที่มาตั้งแคมป์เป็นครั้งแรก ครั้งนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณทาคาฮิโระ

เสน่ห์ของแคมป์ปิ้งนี้คืออะไร

ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่เลยคือธรรมชาติของที่นี่ครับ ไม่ว่าจะเป็นความเงียบสงบของตัวแคมป์ ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินและเงาสะท้อนจากทะเลสาบ ภูเขาที่นี่ก็สวยงาม อากาศเย็นสบายแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน ในช่วงกลางวันอาจมีอุณหภูมิสูงถึงกว่า 30 องศา แต่ตอนกลางคืนอากกาศจะเริ่มเย็น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20-23 องศา ควรเตรียมเสื้อกันหนาว แจ็กเก๊ตแขนยาวเพิ่มความอบอุ่นมาครับ หากมาแคมป์ปิ้งที่นี่ คุณสามารถเลือกจุดกางเตนท์ได้อย่างอิสระ สามารถกางเตน์ใกล้ๆ แม่น้ำได้ ซึ่งถือเป็นข้อดีและเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่ที่แตกต่างจากแคมป์ปิ้งที่อื่นๆ ครับ

สภาพอากาศในวันที่ไปเป็นอย่างไร

ผมมีโอกาสได้ไปแคมป์ปิ้งในช่วงโอบ้งของฤดูร้อน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศา กลางวันบางครั้งอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส แต่อากาศรวมๆ ก็ยังถือว่าเย็นสบายอยู่ครับ เพราะที่นี่ความชื้นต่ำทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ทะเลครับ สภาพอากาศแจ่มใส แต่ตอนกลางคืนอาจรู้สึกหนาวเล็กน้อย ควรมีเสื้อคลุมมาเผื่อครับ ผมคิดว่าเตรียมมาแค่เสื้อฮู้ดหนึ่งตัวก็เพียงพอครับ อากาศค่อนข้างเย็นสบายในตอนกลางคืน ไม่ต้องกังวลเรื่องแมลง ตั้งแคมป์ที่นี่ค่อนข้างสบายเลยครับ

แคมป์ปิ้งที่นี่แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่มาแคมป์ปิ้งที่นี่ค่อนข้างมารยาทดีครับ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนตอนดึก ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ตั้งแคมป์มาก่อนแล้วด้วยครับ บรรยากาศการแคมป์ปิ้งที่นี่ดีมาก มีการบริหารจัดการที่ดี และมีอุปกรณ์เตรียมสำหรับแคมป์ปิ้งให้ด้วย เช่น ฟืน อาหารหรือเบียร์พร้อมให้บริการ ห้องน้ำสะอาด และที่ตั้งแคมป์ก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินด้วยครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมงครับ ที่นี่จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มแคมป์ปิ้งเป็นครั้งแรกครับ 

ฤดูที่เหมาะสำหรับแคมป์ปิ้งที่นี่

แนะนำฤดูร้อนครับ เพราะคิดว่าฤดูหนาวหรือฤดูใบไม้ผลิอาจจะหนาวเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงกันยายนเป็นช่วงที่อากาศดีครับ เป็นอากาศที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นแคมป์ปิ้ง โดยที่ตั้งแคมป์มีระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งต่ำกว่าที่ตั้งแคมป์ในทะเลสาบในภาคคันโต ทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายครับ โดยที่ที่คุณสามารถเลือกเข้าพักได้ตามลำดับก่อนหลัง แต่แนะนำควรมาถึงประมาณ 30 นาทีก่อนแคมป์เปิด เพื่อสามารถจองทำเลตั้งแคมป์ดี ๆ ได้ครับ

มีกิจกรรมอะไรบ้างที่แคมป์โมแร็ป

ผมไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษครับ แต่ส่วนใหญ่มาแคมป์ปิ้งที่นี่คนก็นิยมพายเรือคายัคหรือเล่นน้ำกันครับ น้ำที่นี่ใสสะอาดมาก เป็นกิจกรรมที่นิยมทำในฤดูร้อนครับ กับชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทะเลสาบ สวยมากๆครับ เป็นความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ สงบและผ่อนคลายครับ

ทำอาหารอะไรที่แคมป์ปิ้งบ้าง

ตอนนั้นผมทำยากิโทริกินครับ แต่พอดีแฟนผมที่มาด้วยกันไม่ค่อยสบาย ก็เลยไม่ค่อยได้ทำอาหาร มากเท่าไหร่ครับ ผมจึงต้องทำหน้าที่จุดไฟและดูแลแฟนผมเป็นหลักครับ

อุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ควรเตรียมไป

แนะนำให้มายืมอุปกรณ์ที่นี่ครับเพราะมีบริการเตรียมไว้ให้ครบทุกอย่างแล้ว แต่ควรเตรียมถุงนอนมาเองครับ เพราะแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อนแต่บางครั้งอาจมีอุณหภูมิต่ำครับ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนสิงหาคมของฮอกไกโด ที่นี่จะให้ความรู้สึกเหมือนฤดูใบไม้ร่วงเลยครับ ถึงจะเป็นฤดูร้อนก็ควรมีอุปกรณ์กันหนาวเผื่อไว้ครับ

การเดินทางไปแคมป์ปิ้งที่โมแร็ป

ผมมาที่นี่ด้วยรถส่วนตัวครับ โดยขับรถจากโตเกียวไป จากโตเกียวไปยังท่าเรือที่เชื่อมต่อกับฮอกไกโดใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมงถ้าขับต่อเนื่องแบบไม่หยุดครับ แต่ตอนนั้นติดพายุไต้ฝุ่นเลยไม่ได้ขึ้นทางด่วนครับ เราเลยต้องอ้อมผ่านอิวาเตะและอาคิตะมาครับ แนะนำสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาโดยเครื่องบินแล้วมาเช่ารถต่อที่นี่จะสะดวกกว่าครับ

สถานที่ใกล้เคียงมีอะไรบ้าง

แคมป์ปิ้งที่นี่ไม่ได้ใกล้กับซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้่นสะดวกซื้อเท่าไหร่ครับ เราเลยต้องซื้อวัตถุดิบจากร้านท้องถิ่นระหว่างทาง สามารถซื้ออาหารทะเลสดๆ ได้ด้วยครับ หรือเนื้อสัตว์สำหรับทำบาร์บีคิวก็ได้เช่นกัน ละแวกใกล้ๆ นี้มีบ้านพักตากอากาศที่คุณสามารถไปใช้บริการออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับได้ด้วยครับ

แคมป์ปิ้งนี้เหมาะกับใคร

แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติในบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย ผู้คนไม่พลุกพล่านและค่อนข้างเป็นอิสระครับ แนะนำถ้ามาแคมป์ปิ้งที่นี่ควรมาพักอย่างน้อย 2-3 วันถึงจะคุ้มครับ ตอนนั้นผมมาพักได้ไม่กี่วันเท่านั้นต้องรีบกลับก่อน เพราะอาการป่วยของแฟนผมครับ